ผ้าใบกันน้ำ TPO และผ้าใบกันน้ำ PVC เป็นผ้าใบกันน้ำพลาสติกทั้งสองประเภท แต่มีวัสดุและคุณสมบัติต่างกัน นี่คือข้อแตกต่างหลักระหว่างทั้งสอง:
1. วัสดุ TPO VS PVC
ทีพีโอ:วัสดุ TPO ผลิตจากส่วนผสมของเทอร์โมพลาสติกโพลีเมอร์ เช่น ยางโพลีโพรพีลีนและยางเอทิลีนโพรพิลีน ขึ้นชื่อในด้านความทนทานต่อรังสียูวี สารเคมี และการเสียดสีได้ดีเยี่ยม
พีวีซี:ผ้าใบกันน้ำพีวีซีทำจากโพลีไวนิลคลอไรด์ซึ่งเป็นวัสดุเทอร์โมพลาสติกอีกประเภทหนึ่ง PVC ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและกันน้ำ
2. ความยืดหยุ่น TPO เทียบกับ PVC
ทีพีโอ:โดยทั่วไปผ้าใบกันน้ำ TPO จะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าผ้าใบกันน้ำ PVC ช่วยให้จับและยึดติดกับพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ง่ายขึ้น
พีวีซี:ผ้าใบกันน้ำ PVC ก็มีความยืดหยุ่นเช่นกัน แต่บางครั้งอาจมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าผ้าใบกันน้ำ TPO
3. ความต้านทานต่อรังสียูวี
ทีพีโอ:ผ้าใบกันน้ำ TPO เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานกลางแจ้งในระยะยาว เนื่องจากมีความทนทานต่อรังสียูวีได้ดีเยี่ยม พวกมันไวต่อการเปลี่ยนสีและความเสื่อมน้อยลงเนื่องจากแสงแดด
พีวีซี:ใบเรือ PVC ยังมีความทนทานต่อรังสี UV ได้ดี แต่ใบเรือ PVC อาจมีความไวต่ออันตรายจากรังสี UV มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
4. น้ำหนัก TPO เทียบกับ PVC
ทีพีโอ:โดยทั่วไป ผ้าใบกันน้ำ TPO มีน้ำหนักเบากว่าผ้าใบกันน้ำ PVC ทำให้สะดวกในการขนส่งและติดตั้ง
พีวีซี:ผ้าใบกันน้ำ PVC มีความทนทานกว่าและอาจหนักกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผ้าใบกันน้ำ TPO
5. ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทีพีโอ:ผ้าใบกันน้ำ TPO มักถูกมองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าผ้าใบกันน้ำ PVC เนื่องจากไม่มีคลอรีน ทำให้กระบวนการผลิตและการกำจัดขั้นสุดท้ายมีอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
พีวีซี:ผ้าใบกันน้ำ PVC มีส่วนช่วยในการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตราย รวมถึงสารประกอบคลอรีน ในระหว่างการผลิตและการกำจัดของเสีย
6. บทสรุป; TPO กับ ผ้าใบกันน้ำ PVC
โดยทั่วไปผ้าใบกันน้ำทั้งสองประเภทเหมาะสำหรับการใช้งานและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ผ้าใบกันน้ำ TPO มักใช้สำหรับการใช้งานกลางแจ้งในระยะยาว ซึ่งความทนทานและความต้านทานรังสียูวีมีความสำคัญ ในขณะที่ผ้าใบกันน้ำ PVC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การขนส่ง การจัดเก็บ และการป้องกันสภาพอากาศ เมื่อเลือกผ้าใบกันน้ำที่เหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความต้องการเฉพาะของโครงการหรือกรณีการใช้งานของคุณ
เวลาโพสต์: Jul-05-2024